วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

วงศาคณานาค มีชื่อพระนาม พี่น้องของ พญาอนันตนาคราช จำนวนมากมายจาก คัมภีร์มหาภารตะ

 





ข้อมูลนี้  copyมานะ  ไม่ได้เขียนเอง

จากเพจFacebook ชื่อ "ครุฑเฒ่าเล่ามหาภารตะ&รามายณะ"

https://www.facebook.com/profile.php?id=100047006750173

รายชื่อนาคราช  ใน มหาภารตะ

วงศาคณานาค

 เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้ ท่านฤษีเศานกะก็ได้เอ่ยถามเสาติว่า 


“โอ้...สูตนันทนะ ท่านนั้นได้เล่าถึงเหตุที่เหล่าภุชงค์นั้นถูกมารดาของพวกเขาสาป ท่านได้เล่าถึงเหตุที่นางวินตาถูกบุตร (พระอรุณ) ของนางสาป ท่านได้เล่าเรื่องของนางกัทรูกับนางวินตาที่ได้รับการประทานพรจากสามีของพวกนาง และท่านนั้นยังก็ได้เอ่ยถึงนามของนกผู้เป็นบุตรของนางวินตาทั้งสองให้ข้าพเจ้าฟังไปแล้ว”


 “สูตชะ...เอ๋ย ท่านนั้นยังมิได้กล่าวถึงนามของเหล่าปันนคะให้พวกเราฟังเลย เวลานี้พวกเรานั้นปรารถนาที่จะได้รับรู้ซึ่งนามของเหล่านาคผู้ทรงอำนาจหรือที่มีชื่อเสียงโด่งดังเหล่านั้น โปรดบรรยายถึงนามแห่งนาคทั้งหลายนี้ให้พวกเราฟังด้วยเถิด”


 เมื่อได้ฟังฤษีเศานกะกล่าวออกมาแทนเหล่านักบวชทั้งหลายเช่นนี้แล้ว เสาติจึงเริ่มเล่าบรรยาย ว่า


 “โอ้...ท่านผู้ตโปธนะ อันนามของเหล่าภุชงค์นั้นมันมีอยู่มากมายหลายตนนัก ซึ่งข้าพเจ้าจะขอไม่กล่าวถึงชื่อของพวกเขาเหล่านั้นทั้งหมด โดยข้าพเจ้าจะขอกล่าวแต่เฉพาะเพียงนามของพญานาคที่สำคัญ ๆ เท่านั้น...พึงโปรดฟังเถิด”


 แล้วเสาติก็เริ่มร่ายนามของพญานาคตนสำคัญ ๆ ว่า

อันพญานาคตนแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมานั้นมีนามว่าเศษะ (शेष - Shesha)  พญานาคตนที่สองที่ถือกำเนิดขึ้นมานั้นก็นามว่าวาสุกิ (वासुकि – Vasuki) จากนั้นก็ตามมาด้วยพญานาคที่มีชื่อว่า ไอราวตะ (ऐरावत - Airavata), ตักษกะ (तक्षक - Takshaka), กรรโกฏกะ (कर्कोटक), ธนัญชยะ (धनञ्जय – Dhananjaya), 

กาลิยะ (कालिय – Kaliya), มณินาคะ (मणिनाग), อาปูรณ (आपूरण - Apurana), ปิญชรกะ (पिञ्जरक - Pinjaraka), เอลาปัตระ (एलापत्र - Elapatra), วามนะ (वामन - Vamana), นีละ (नील - Nila), อนีละ (अनील - Anila), กัลมาษะ (कल्माष – Kalmasha), ศพละ (शबल - Shabala), 

อารยกะ (आर्यक - Aryaka), อาทิกะ (आदिक - Adika), อุครกะ (उग्रक - Ugraka), ศลโปตกะ (शलपोतक – Salapotaka), กลศโปตกะ (कलशपोतक - Kalashapotaka), สุมโนมุขะ (सुमनोमुख - Sumanomukha), สุมนาขยะ (सुमनाख्य - Sumanakhya), ทธิมุขะ (दधिमुख - Dadhimukha), วิมลปิณฑกะ (विमलपिण्डक - Vimalapindaka), อาปตะ (आप्त - Apta), 

โกฏนกะ (कोटनक - Kotanaka), โกฏรกะ (कोटरक - Kotaraka), ศังขะ (शङ्ख - Shankha), วาลศิขะ (वालशिख - Valashikha), วาลิศิขะ (वालिशिख - Valishikha), นิษฐยูนกะ (निष्ठ्यूनक - Nishthyunaka), นิษฏานกะ (निष्टानक - Nishtanaka), เหมคุหะ (हेमगुह - Hemaguha), นหุษะ (नहुष - Nahusha), ปิงคละ (पिङ्गल - Pingala), 

วาหยกรรณ (बाह्यकर्ण - Vahyakarna), หัสติปทะ (हस्तिपद - Hastapada), มุทครปิณฑกะ (मुद्गरपिण्डक - Mudgarapindaka), กัมพละ (कम्बल - Kambala), อัศวตระ (अश्वतर - Ashvatara), กาลียกะ (कालीयक - Kaliyaka), วฤตตะ (वृत्त - Vritta), สัมวรรตกะ (संवर्तक - Samvartaka), มหาปัทมะ (महापद्म - Mahapadma), ปัทมะ (पद्म - Padma), 

แล้วก็ยังมีพญานาคอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอีกหลายตน เช่น ศรุตะ (श्रुत - Shruta) หรือ ศรุตเสน (श्रुतसेन - Shrutasena), ศังขนกะ (शङ्खनक - Shankhanaka), สผัณฑกะ (स्फण्डक - Sphandaka), กุษมาณฑกะ (कूष्माण्डक - Kushmandaka), เกษมกะ (क्षेमक - Kshemaka), ปิณฑารกะ (पिण्डारक - Pindaraka), กรวีระ (करवीर - Karavira), ปุษปทัมษฏร์ (पुष्पदंष्ट्र - Pushpadamshtra), เอฬกะ (एळक - Eḷaka), 

พิลวกะ (बिल्वक - Bilvaka), พิลวปาณฑุกะ (बिल्वपाण्डुक - Bilvapanduka), พิลวปาณฑุระ (बिल्वपाण्डुर - Bilvapandura), มูษกาทะ (मूषकाद - Mushakada), ศังขศิระ (शङ्खशिर - Shankhashira), ปูรณทัมษฏร์ (पूर्णदंष्ट्र - Purnadamshtra), ปูรณภัทระ (पूर्णभद्र - Purnabhadra), หริทระกะ (हरिद्रक - Haridraka), อปราชิต (अपराजित - Aparajita), ชโยติกะ (ज्योतिक - Jyotika), 

ศรีวหะ (श्रीवह - Shrivaha), เการวยะ (कौरव्य - Kauravya), ธฤตราษฏร์ (धृतराष्ट्र - Dhritarashtra), ปุษกร (पुष्कर - Pushkara), ศังขปิณฑะ (शङ्खपिण्ड - Shankhapinda), ศัลยกะ (शल्यक - Shalyaka), วิรชะ (विरज - Viraja), สุพาหุ (सुबाहु - Subahu), ศาลิปิณฑะ (शालिपिण्ड – Shalipinda), หัสติภัทระ (हस्तिभद्र - Hastibhadra), 

หัสติปิณฑะ (हस्तिपिण्ड - Hastipinda), ปิฐรกะ (पिठरक - Pitharaka), มุขระ (मुखर - Mukhara), สุมุขะ (सुमुख - Sumukha), โกณวาสนะ (कोणवासन – Konavasana), เกาณปาศนะ (कौणपाशन - Kaunapashana), กุญชระ (कुञ्जर - Kunjara), กุรระ (कुरर - Kurara), กุฐระ (कुठर - Kuthara), ประภากระ (प्रभाकर - Prabhakara), 

กุมุทะ (कुमुद - Kumuda), กุมุทากษะ (कुमुदाक्ष - Kumudaksha), ติตติริ (तित्तिरि – Tittiri), หลิกะ (हलिक - Halika), กรรทมะ (कर्दम - Kardama), พหุมูลกะ (बहुमूलक - Bahumulaka), กรรกระ (कर्कर - Karkara), อกรรกระ (अकर्कर - Akarkara), กุณโฑทระ (कुण्डोदर - Kundodara) และ มโหทระ (महोदर - Mahodara)

จากนั้นเสาติก็กล่าวต่อไปว่า


“โอ้...ท่านผู้เป็นทวิชสัตตมะ (द्विजसत्तम - Dvijasattama)  นามเหล่านี้แหละที่เป็นชื่อของพญาแห่งนาคซึ่งโด่งดังและเป็นที่รู้จักกัน ส่วนบรรดานาคอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยโด่งดังหรือเป็นที่รู้จักกันน้อยนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่ขอเอ่ยถึงนามของพวกเขาเหล่านั้นให้เสียเวลา”


“ข้าแด่...ผู้อุดมยิ่งในหมู่พราหมณ์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ด้วยเพราะพญานาคเหล่านี้ที่เป็นต้นสกุล นั้นยังได้แพร่พันธุ์ออกลูกออกหลาน จนสืบต่อไปถึงเหลนถึงลื่ออีกมากมายหลายชนิดจนนับไม่ถ้วน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงข้อมูลอันเป็นนามของพญานาคหลัก ๆ เพียงเท่านั้น”


“โอ้...พราหมณ์ผู้รุ่มรวยในตบะ แล้ววงศ์กับตระกูลแห่งงูอันแตกต่างกันเหล่านี้ก็ยังแพร่สายพันธุ์ (Species) ออกมาอีกมากมายนับสหัสระ (सहस्र - Sahasra)  แล้วแพร่พันธุ์ (ออกลูกออกหลาน) ต่อไปจนถึงจำนวนหลักประยุตะ (प्रयुत - Prayuta)  และจำนวนหลักอรรพุทะ (अर्बुद - Arbuda)  ตนกันเลยทีเดียว จนทำให้ข้าพเจ้านั้นไม่สามารถอาจแสดงแจกแจงซึ่งนามอันนับไม่ถ้วนของพวกเขาทั้งหลายได้หมดในที่นี้”


-----------------------------

เศษ หมายถึง พญานาคตนแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นพี่ชายคนโตที่สุดของเหล่าพญานาคทั้งหลาย  ดังนั้นบางครั้งจึงมีการกล่าวถึงนามของเขาว่าเป็น “อาทิเศษะ (आदिशेष - Adishesha)” อันสื่อลงไปให้เห็นว่าเขานั้นเป็นพญานาคตนแรกที่กำเนิดขึ้นมาในโลก แล้วด้วยเขาเป็นพญานาคใหญ่และเป็นอมตะเขาจึงได้ฉายาอีกว่าเป็น “อนันตะ (अनन्त - Ananta)” ด้วย


ทฺวิชสตฺตม หมายถึง ผู้เป็นเลิศในหมู่พราหมณ์, หัวหน้าคณะแห่งพราหมณ์, พราหมณ์ผู้ดีเยี่ยม, พราหมณ์ผู้เป็นที่น่านับถือมาก


สหสฺร หมายถึง หนึ่งพัน (1,000)


ปฺรยุต หมายถึง หนึ่งล้าน (1,000,000)


อรฺพุท หมายถึง สิบล้าน (10,000,000)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น